ชีวิตดีขึ้นด้วยผักตำลึงและจักรวาล

หยุดใช้สมอง (สักครู่) แล้วชีวิตจะดีขึ้น

  

     ผักตำลึง เจริญเติบโตได้ มันรู้ได้เองว่ากิ่งไม้ไหนควรเกาะ หรือไม่ควรเกาะ แม้เจอกำแพงปูน หากมันจะไต่ขึ้นไป มันก็รู้ได้ว่ากำแพงมีรอยแตกตรงไหน  ที่มันสามารถขดหนวดเข้าไปเกี่ยวได้ คุณว่ามันคิดหรือเปล่า?
 

      สูงกว่าพืชขึ้นไปอีก คือสัตว์ทั้งหลาย เมื่อครั้งยังเป็นสปิร์ม พวกมันสามารถรู้ภารกิจหน้าที่หลักของตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องคิดหรือตัดสินใจ  อีกทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่างๆ แม้กระทั่งคลอดออกมาแล้ว ตายังไม่ลืม มันก็ยังสามารถกระเสือกกระสนคลานหานมแม่กินได้

       จวบจนกระทั่งเริ่มมีความ สามารถในการคิดและตัดสินใจ   สัตว์บางตัวเลือกก็อาจเส้นทางได้ถูกต้อง สามารถผลักดันตัวมันเองขึ้นเป็นจ่าฝูงได้ บางตัวเลือกเส้นทางที่ผิด ประเมินกำลังตัวเองผิด ก็อาจพ่ายแพ้หรือกลายเป็นอาหารให้สัตว์อื่น อาจกล่าวได้ว่า พอเริ่มมีระบบการตัดสินใจขึ้นมา ความผิดพลาดก็อาจเกิดขึ้นได้

หมาป่าจ่าฝูง

หมาป่าที่ถูกไล่จากฝูง

      สูงขึ้นมาอีกขั้น มนุษย์ ตอนเป็นเด็ก พวกเขารู้แน่ชัดว่า ตัวเองชอบเล่น และไม่ชอบเล่นอะไร ชอบกินและไม่ชอบกินอะไร พวกเขาแสดงพฤติกรรมออกมาตรงตามความต้องการที่แท้จริง เด็กทุกคนมีการวิวัฒน์ และเติบโตโดยอัตโนมัติ

     จวบจนพวกเขาเริ่มมีการตัดสินใจ เริ่มมีสมองที่สลับซับซ้อนยิ่งขึ้น หรือเริ่มเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาบางคนใช้สมองในการนำพาให้ตัวเองตกต่ำลงโดยไม่รู้ตัว และสมองนี่เองนำพาให้เกิด ความทุกข์ เกือบทุกชนิด แม้มนุษย์บางคนจะใช้สมองเพื่อความเจริญก้าวหน้าได้แต่เป็นส่วนน้อยของโลก

    จักรวาลหรือเอกภพ ไม่มีระบบประสาทและสมอง (แต่อาจเป็น ปัญญาที่ไร้ขอบเขต)  แต่จักรวาลก็กำลังวิวัฒน์ กำลังขยายตัว เกิดดวงดาวใหม่ๆ ขึ้นตลอดเวลา แม้ดาวบางดวงจะดับสลายกลายเป็นหลุมดำ ซึ่งดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่าง 

    แต่โดยภาพรวมจักรวาลหรือเอกภพกำลังขยายตัวหรือยังคงก่อกำเนิดมากกว่าการแตกสลาย หากเอกภพสามารถคิดหรือตัดสินใจได้เหมือนมนุษย์ บางทีเราอาจเห็นเอกภพตัดสินใจผิดพลาดในบางเรื่อง

     ย่อยจักรวาล ลงมาอีกระดับหนึ่ง คือ galaxy เกือบทุก กาแล็คซี่ ที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ ก็กำลังขยายตัวและวิวัฒน์ขึ้นเช่นกัน   มีดาวฤกษ์ต่างๆ ก่อกำเนิดขึ้น ช่วงเวลาที่วิวัฒน์ก็ได้ก่อให้เกิดระบบสุริยะใหม่ๆ  และให้พลังงานแก่ดาวเคราะห์อื่น จวบจนกระทั่งสิ้นอายุขัย

   ไม่ว่าจะกลายเป็นดาวแคระขาว หรือดับสลายอย่างรุนแรงกลายเป็นหลุมดำ แต่กล่าวได้ว่าช่วงเวลาที่วิวัฒน์และให้ประโยชน์นั้น ยาวนานกว่าช่วงดับสลายและให้โทษ

 

     ดาวเคราะห์เช่นโลก  หลังจากโลกเริ่มเย็นตัวลง เริ่มมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ มีระบบธรรมชาติ ป่าเขา ลำเนาไพร แหล่งน้ำ ซึ่งมีการวิวัฒน์และปรับสมดุลย์ด้วยตัวเอง 

   ต่อมาเมือสิ่งมีชีวิตเริ่มมีระบบสมองที่ทรงพลัง และมีการตัดสินใจ  ซึ่งระบบความคิดที่ซับซ้อนขึ้นของมนุษย์นี่เอง เริ่มเข้ามาแทรกแซงระบบ  และอาจทำให้โลกอายุสั้นกว่าที่มันควรจะเป็น

      จะเห็นได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในเอกภพ ทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ถ้าไม่มีระบบความคิดหรือสมอง เข้ามาเกี่ยวข้อง มันจะดำเนินไปตามครรลองการวิวัฒน์ ซึ่งเป็นสากล ไม่ว่าจะเป็นผักตำลึงหรือเอกภพ

    อาจกล่าวได้ว่าทุกสรรพสิ่งในเอกภพหรือจักรวาล มีธรรมชาติคือความก้าวหน้า ความวิวัฒน์  (ก่อนที่จะดับสลาย) หากตัวเราไม่ก้าวหน้า ไม่วิวัฒน์ ต้องพิจารณาว่า ตัวเรานั้น ใช้ชีวิตหรือมีความคิดที่ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติและจักรวาลหรือเปล่า?  คำถามที่สำคัญก็คือว่า  แล้ววิธีคิดอย่างไรที่เรียกว่าสอดคล้องกับธรรมชาติ? 

     คำตอบอาจเป็นการ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องใช้สมอง เพราะ ธรรมชาติและจักรวาลก็ไม่ได้คิด ลองพิจารณาการหยุดนิ่ง ปล่อยวาง ทำสมาธิ โดยเอาความว่างของจักรวาลเป็นอารมณ์

    เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล และยอมให้จักรวาลเป็นส่วนหนึ่งของเราปล่อยวางตัวตนสู่จักรวาลอัน เวิ้งว้าง ไม่มีขอบเขต  ณ.ที่ๆไม่มีสมอง ไม่มีความคิด ณ. โมเมนต์ที่เราเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล ในเมื่อจักรวาลกำลังวิวัฒน์และเติบโต คุณก็กำลังวิวัฒน์และเติบโตเช่นกัน

   จักรวาลมีปัญญาญาณอันไร้ขีดจำกัดเกินความหยั่งรู้ของมนุษย์ พลังที่มองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง คอยจัดสรรสิ่งต่างๆ ให้เข้ารูปเข้ารอย ด้วยกฏด้วยระเบียบของเขา   

     อยู่ที่นั่น ถ้าอยู่ได้ นานจนกว่าจะพอใจ ให้พลังแห่งจักรวาลเยียวยา ระบบทุกระบบในร่างกายและจิตใจของคุณ พลังแห่งการวิวัฒน์แห่งจักรวาลจะไหลเข้ามาอยู่ในรวมกับพลังวิวัฒน์ในตัวคุณ  และเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง  ซึ่งที่จริงพลังวิวัฒน์มันก็อยู่และเป็นส่วนหนึ่งในตัวของคุณมานานแล้ว ก่อนที่ความคิดต่างๆจะทับลงไปหลายชั้นจนหนาทึบ 
 
     และหลังจากกลับสู่ชีวิตปกติ  ลองสังเกตุ ดูเหมือนคุณจะดึงดูดหรือถูกดึงดูดให้เจอเส้นทางใหม่ คนใหม่ๆ  เส้นทางแห่งการวิวัฒน์ ที่อยู่เหนือขอบเขตความคิดของระบบสมองตามปกติ

     แค่เริ่มทดลอง ก็ยังได้ประโยชน์จากพลังวิวัฒน์ของจักรวาล เพราะแค่เพียงการหยุดคิดบ้างและผ่อนคลายก็ถือว่าได้เชื่อมต่อเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลแล้ว 

 อย่าลืมว่า จักรวาลกำลังวิวัฒน์และมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล

หยุดใช้สมอง (บ้าง)  ถ้าอยากให้ชีวิตดีขึ้น

 

-------------------------------

นาซ่าพาท่องจักรวาลในคลิปเดียว  

  http://youtu.be/Un5SEJ8MyPc

_____________________________________________